ปัจจุบันรูปแบบการดำเนินชีวิตได้เปลี่ยนแปลงไปจากอดีต
คือ มุ่งเน้นการบริโภคมากขึ้น และการเพิ่มขึ้นของ จำนวนประชากรโลก ก็ยิ่งก่อให้เกิดการบริโภคสินค้าสิ้นเปลืองมากขึ้นตามไปด้วย
ทำให้มีการผลิตผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ออกสู่ ตลาดในปริมาณที่มาก
โดยผลิตภัณฑ์แต่ละชิ้นต้องอาศัยทรัพยากรธรรมชาติในการผลิต
ดังนั้นหากการผลิตเกิดขึ้นโดยไม่ คำนึงถึงปริมาณที่จำกัดของทรัพยากรก็จะส่งผลกระทบร้ายแรงต่อสิ่งแวดล้อมได้เช่นกัน
นอกจากนี้จะรู้ได้อย่างไรว่า สินค้าและบริการใดที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
ผู้บริโภคสามารถสังเกตได้จาก สัญลักษณ์บนกล่องหรือหีบห่อหรือบนตัวสินค้า ได้แก่
สัญลักษณ์ฉลากเขียว, สัญลักษณ์ประหยัดไฟเบอร์ 5, สัญลักษณ์ มาตรฐานผลิตภัณฑ์คุณภาพ หากเป็นบริการต่าง ๆ
ผู้บริโภคเพียงมองหาสัญลักษณ์การรับรองได้แก่ สัญลักษณ์รูปใบไม้ เขียวสำหรับบริการโรงแรม
เป็นต้น ดังนั้นทุกครั้งที่ต้องการซื้อ หรือใช้บริการต่าง ๆ
จงเตือนตัวเองเสมอว่าให้มองหา สัญลักษณ์ของสินค้า และบริการที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
เพราะนอกจากจะได้ใช้สินค้าและบริการที่เป็นไปตามความ ต้องการของตนเองแล้ว
ยังจะได้มีส่วนร่วมในการรักษาสิ่งแวดล้อมได้อีกทางหนึ่งด้วย
ความหมายของผลิตภัณฑ์/สินค้าและบริการที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม
ผลิตภัณฑ์หรือสินค้าที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม
คือ สินค้าที่ผลิตจากกระบวนการและเทคโนโลยีที่ใส่ใจกับ ผลกระทบที่จะเกิดกับสิ่งแวดล้อม
โดยเริ่มต้นตั้งแต่การคัดเลือกวัตถุดิบในการผลิต
จนกระทั่งเสร็จสมบูรณ์เป็นสินค้าหรือ ผลิตภัณฑ์
รอการบรรจุลงในหีบห่อและบรรจุภัณฑ์สำหรับเตรียมการขนส่งและจัดจำหน่ายให้กับผู้บริโภคต่อไป
รวมถึง การจัดการซากผลิตภัณฑ์นั้น ๆ อย่างถูกวิธี
บริการที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
คือบริการต่าง ๆ ที่อำนวยความสะดวกในชีวิตประจำวัน เช่น โรงแรม โรงพยาบาล
ร้านอาหาร เป็นต้น ธุรกิจเหล่านี้ให้ความสำคัญใส่ใจต่อสิ่งแวดล้อมได้โดยการเลือกใช้อุปกรณ์ประหยัด
พลังงาน ประหยัดนำ และมีการจัดการขยะที่สามารถนำกลับมาใช้ใหม่ได้
รวมทั้งมีการจัดซื้อจัดจ้างสีเขียวที่เลือกใช้สินค้า และบริการที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
นอกจากนี้มีการรณรงค์สื่อสารให้บุคลากรในหน่วยงานเห็นคุณค่าความสำคัญ และ พร้อมเป็นส่วนหนึ่งในการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมใหม่เลือกใช้สินค้าและบริการที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
สังเกตได้อย่างไรว่าสินค้าหรือบริการใดเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
สินค้าหรือบริการที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
จะต้องได้รับการตรวจสอบประเมินผลกระทบที่เกิดจาก กระบวนการผลิตตลอดทั้งวัฎจักรผลิตภัณฑ์อย่างละเอียดจากผู้เชี่ยวชาญการด้านสิ่งแวดล้อมตามเกณฑ์หรือข้อกำหนด
ของสินค้าผลิตภัณฑ์หรือบริการแต่ละประเภท จึงจะได้รับ "ฉลาก" หรือ
"ตราสัญลักษณ์" ซึ่งฉลากที่มีออกโดยหน่วยงาน ในประเทศไทย
แสดงว่าสินค้าหรือบริการนั้น ๆ จัดอยู่ในกลุ่มผลิตภัณฑ์สีเขียว
เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ผู้ผลิตสามารถ สื่อสารกับผู้บริโภคได้ว่ากว่าที่จะได้มาซึ่งสินค้าหรือผลิตภัณฑ์นั้น
ๆ ต้องคำนึงถึงผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมตั้งแต่ต้นทาง จนถึงปลายทาง
เพื่อช่วยให้ผู้บริโภคได้เลือกซื้อใช้สินค้าที่ก่อให้เกิดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมน้อยที่สุดหากเปรียบเทียบกับ
สินค้าตามท้องตลาดในประเภทเดียวกัน
1.สินค้าอุปโภคบริโภคที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
ผู้บริโภคสามารถสังเกตสัญลักษณ์บนกล่อง
หีบห่อ บรรจุ ภัณฑ์หรือบนตัวสินค้านั้น ๆ ได้แก่
1.1
สัญลักษณ์ฉลากสิ่งแวดล้อม เช่น ฉลากเขียว ตระกร้าเขียว ฉลากคาร์บอนฟรุตปริ้น ฯลฯ
1.2
สัญลักษณ์ประหยัดไฟเบอร์ 5
1.3
สัญลักษณ์ผลิตมาจากวัสดุแปรใช้ใหม่
1.4 สัญลักษณ์ที่ผลิตมาจากป่าที่ปลูก
1.5
สัญลักษณ์มาตรฐานผลิตภัณฑ์คุณภาพ
2.สินค้าจำพวกอาหารทั้งสด
และแห้ง ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
ผู้บริโภคสามารถตรวจสอบได้ว่าเป็นสินค้าที่ผลิตมาจากกระบวนการผลิตปลอดสารเคมีหรือไม่โดยสังเกตสัญลักษณ์
ได้แก่ สัญลักษณ์ผลิตภัณฑ์เกษตรอินทรีย์
3.บริการต่าง
ๆ ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เช่น โรงแรม โรงพยาบาล
ร้านซักแห้ง หรือสถานีบริการน้ำมัน ฯลฯ ผู้บริโภคเพียงมองหาสัญลักษณ์การรับรอง
ได้แก่ สัญลักษณ์รูปใบไม้เขียว สำหรับบริการโรงแรม
ประโยชน์การเลือกซื้อสินค้าและบริการที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
ในปัจจุบันหน่วยงานและองค์กรต่าง ๆ สามารถมีส่วนร่วมในการเลือกซื้อสินค้าที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
(สินค้า ที่ได้รับฉลากสีเขียว) และบริการที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
ซึ่งประโยชน์ในการเลือกซื้อสินค้าและบริการที่เป็นมิตรต่อ สิ่งแวดล้อม มีดังนี้
1. ประโยชน์ต่อผู้บริโภค
ผู้บริโภคจะได้ใช้สินค้าที่ช่วยรักษาสิ่งแวดล้อมมาตั้งแต่ในกระบวนการผลิต
เป็นการลดการ ใช้ทรัพยากรที่สิ้นเปลืองและสารที่เป็นพิษต่อมนุษย์และสิ่งแวดล้อม
ทำให้มีผลต่อสุขภาพและสิ่งแวดล้อม โดยรวมรวมทั้งช่วยปลูกฝังค่านิยมให้สังคมร่วมกันอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมไปด้วย
2. ประโยชน์ต่อผู้ผลิต
เมื่อสินค้าและบริการที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมได้รับความนิยมมากขึ้น
ก็จะส่งผลให้ปริมาณ การจำหน่ายสูงขึ้นด้วย
อีกทั้งในกระบวนการผลิตที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมนั้น
ยังเน้นให้ผู้ผลิตใช้ทรัพยากรและ เทคโนโลยีอย่างคุ้มค่าและปลอดภัยต่อมนุษย์และสิ่งแวดล้อมมากขึ้น
ซึ่งจะส่งผลตอบแทนทางเศรษฐกิจในระยะยาว
ทั้งในการประหยัดต้นทุนการผลิตและเป็นการสร้างภาพลักษณ์ที่ดีต่อผลิตภัณฑ์
3. ประโยชน์ต่อสิ่งแวดล้อม
เมื่อผู้ผลิตและผู้บริโภคต่างร่วมมือร่วมใจกันผลิตและบริโภคสินค้าและบริการที่เป็นมิตร
ต่อสิ่งแวดล้อมมากขึ้นแล้ว ก็จะส่งผลดีต่อสิ่งแวดล้อมโดยรวม คือ ช่วยลดผลกระทบต่าง
ๆ ในการผลิตที่อาจเกิด อันตรายต่อมนุษย์และสิ่งแวดล้อมทั้งทางตรงและทางอ้อม
รวมทั้งช่วยลดการปล่อยมลพิษที่เป็นสาเหตุให้เกิด ภาวะโลกร้อนอีกด้วย
ดังนั้นทุกครั้งที่ต้องการซื้อของหรือใช้บริการต่าง
ๆ ต้องทำให้เป็นนิสัย หมั่นมองหาตราสัญลักษณ์ดังกล่าวที่ กล่าวมาข้างต้นก็จะทำให้ผู้บริโภคทราบได้ว่าสินค้าหรือบริการใดเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
เพื่อจะได้เลือกใช้ตามความ ต้องการ และมีส่วนร่วมในการรักษาสิ่งแวดล้อมด้วย
ตัวอย่างสินค้าและบริการที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม